Monday, 17 October 2011

ตามกลิ่นกาแฟ:hausfrau, Albert Park...like a lolly shop

Albert Park 123 Bridport Street, Melbourne 
cafe นี้อยู่ไม่ไกลจากที่ร้านมากนักนั่งรถรางก็ 3 ป้ายเดินก็สัก 10 นาทีอยู่ติดกับห้องสมุดที่เราชอบมาแวะอ่าน-ยืมหนังสือ


เปิดมาพักใหญ่แล้วนะ...ตกแต่งด้านในออกจะเป็นผู้หญิงมากไปหน่อยเลยอาจจะเป็นเหตุผลที่เราไม่ได้แวะเข้าไปชิมกาแฟที่นี่ซะที...เอาล่ะเป็นไงเป็นกันลองเข้าไปดูสักนิดชิมกาแฟสักแก้วและรีบออก...ผนังทาสีชมพูอ่อน 2 ด้านและประดับผนังด้วยจานกระเบื้องลายดอกไม้ด้านหน้าเยื้องขวามือเป็นโต็ะcommuterตัวใหญ่ให้นั่งแชร์กันได้ประมาณ 8-10 คนตั้งอยู่หน้าเคาร์เตอร์ปูกระเบื้องขาวด้านบนเต็มไปด้วยขนมของหวานดูน่ากิน...นั่งที่โต๊ะนี้หันหน้าออกถนนจะเห็นวงเวียนรถ คนขี่จักรยาน บ้างเดินจูงหมา...ก็เพลินดีกว่านั่งหันหน้าเข้าฝาผนังสีชมพู...55...
พนักงานวัยรุ่นใส่เสื้อยืดสี...ให้ทายว่าสีอะไร...ถูกกกก...สีชมพู...ถือกาแฟ flatwhite มาเสริฟที่โต๊ะ รสชาติกาแฟพอใช้ได้แต่ไม่ถึงกับเข้มข้นเหมือนทางmarketlaneหรือ jasper coffee...นั่งสักพักก็เพลินดีเหมือนกันด้วยความที่ตัวร้านและถนนด้านหน้าร้านไม่พลุกพล่านมากนักแถมเปิดกระจกระบายอากาศโดยรอบ...ราคากาแฟแก้วละ 3.5 เหรียญก็ถือว่าเป็นราคาปรกติครับ นั่งสักพักมองไปรอบๆมีความรู้สึกว่านั่งอยู่ในร้านขายของหวานหรือโรงงานผลิตchocolateอย่างในหนัง Charlie and the Chocolate Factory หรือเราคิดไปเอง
...รูปเพิ่มเติม Thanks http://cafesphotoblog.blogspot.com 





Thursday, 6 October 2011

ตามกลิ่นกาแฟ: Market lane สาขา2หน้าตลาด Queen Vic

 
109-111 Therry Street ,Melbourne
www.marketlane.com.auhttp://www.marketlane.com.au
ตามกลิ่นกาแฟมาที่สาขา 2 ของmarket lane หน้าตลาดสด Queen Victoria market ตรงข้ามตลาดผักผลไม้organic...สาขานี้เล็กมากขนาดคร่าวๆน่าจะประมาณ 1ใน3ของห้องแถวขนาด 1 คูหาบ้านเรา...มีพนักงานแค่ 2 คน...ไม่มีโต็ะแต่มีเป็นที่นั่งยาวนั่งได้ 4-5 คนติดกำแพงด้านในและที่นั่งริมกระจกนั่งได้อีกสัก 3-4 คน...มีเคาเตอร์เล็กๆและก็ชั้นวางขายเมล็ดกาแฟ อุปกรณ์ชงกาแฟ...คือจะเหมาะเป็นร้านกาแฟจริงๆสำหรับคนที่ต้องการจะหากาแฟดีๆทานสักแก้วและก็เหมาะสำหรับคอกาแฟที่ต้องการกาแฟของทางร้านไปชงกินเองที่บ้านซึ่งพนักงานทั้งสองคนก็จะแนะนำขั้นตอนคร่าวๆ...

 
กาแฟรสชาติก็ยังคงความเข้มจัดเหมือนเดิม(เหมือนสาขาใหญ่ที่ตลาดprahran Market)ต้องขอแอบใส่น้ำตาลหอมๆของทางร้านตามเคย...น้ำตาลที่นี่เป็นน้ำตาลนำเข้าCostaRican Whole Cane Dulce Sugar กลิ่นหอมคาราเมลและผิวสัมผัสละเอียดปุยๆ...
อันนี้เป็นสาขาใหญ่ที่ตลาด prahran Market
ก็ใครที่มาเที่ยวเมลเบริน์และมีโอกาสไปเดินshopping ที่ตลาดqueen Vic ก็ลองแวะๆไปจิบกาแฟเข้มๆที่นี่ดู 

Monday, 3 October 2011

Invitation card: Spring into gardening:Victoria gardens

๑ ในโครงการดีๆกับชั้นเชิงในการโฆษณา.Spring into gardening: www.stonnington.vic.gov.au/spring
Spring into gardeningเป็นโครงการให้ความรู้ด้านวิชาการ+บันเทิงกับชุมชนครอบครัวเรื่องการปลูกต้นไม้ทำสวน การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าsustainable gardening การให้ความรู้เกี่ยวกับพืชพันธ์ต้นไม้รวมไปถึงไม้คุ้มครอง โดย National trust of Australia gardeners....นอกนั้นก็มีแสดงสดของวงดนตรีแจซ กิจกรรมเด็กๆมีโชว์สุนัข วาดรูป.....

กลับมาที่ตัวการด์เชิญชวนนอกจากพิมพ์บนกระดาษที่สามารถย่อยสลายได้ 100 % แล้วขั้นตอนการพิมพ์เช่นหมึกที่ใช้ยังไม่เป็นภัยกับโลกด้วย...และสุดยอดไปกว่านั้นคือการด์ใบนี้ด้านหลังว่าplant this card and watch it grow!พร้อมทั้งขั้นตอนง่ายๆคือเอาการด์ไปแช่น้ำให้นิ่มและก็ขุดหลุมรดน้ำเหมือนเราปลูกต้นไม้นะครับ...รอแค่ 7-21 วันต้นอ่อนของดอกแปรงล้างขวด(crimson Bottlebrush)ก็จะงอกและ...ชื่นชมจริงๆครับ
นอกเรื่องนิดนึงนะ...รัฐบาลออสเตยเลียจะแจกต้นไม้ประจำชาติไปปลูกที่บ้านด้วยสำหรับคนที่ได้รับสัญชาติออสเตยเลียหมายถึงในวันที่ทำพิธีนอกจากใบประกาศสถานะความเป็นพลเมืองออสซี่แล้วยังได้ต้นไม้ประจำชาติไปปลูกด้วย...เราก็ได้มาปลูกปลูกไปได้สักฟุตนึงเริ่มมีความรู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับเนื้อที่สวนน้อยๆในบ้านก็เลยต้องอันเชิญหรือถอนออกไปและปลูกต้นโหระพา(ต้นไม้ประจำครัวไทยแทน)...
ลืมชวนครับงานมีวันอาทิตย์หน้าเริ่ม 11 โมง- 4 โมงเย็น...งานนี้ฟรีครับ Spring into gardening:Victoria gardens, High st, Prahran

Wednesday, 28 September 2011

ตามกลิ่นกาแฟ:Our kitchen table


http://www.ourkitchentable.com.au/
cafeเล็กๆ 2 คูหาอยู่ตรงข้ามสวนสาธารณะ Central park(Malvern)ซึ่งก็อยู่ห่างจากบ้านประมาณ...5-10นาทีเดิน...วันนี้ก็เหมือนเดิมก็คือไปเดิน+วิ่งออกกำลังกายสักพักใหญ่ๆก่อนและก็ข้ามถนนมานั่งกินกาแฟดูคนวิ่งบ้าง เดินจูงหมารอบๆสนามหญ้าบ้าง...
ร้านตกแต่งแบบcountry cafe+ kitsch+vintage...ออกแนวหญิงๆไปหน่อยนั้นก็อาจจะเป็นเพราะเจ้าของร้านและchefเป็นผู้หญิงหมดเลย...อาหารในเมนูเกือบทุกอย่างรวมทั้งพวกjamทาขนมปังล้วนhomemadeเองจากในครัว
กาแฟวันนี้กินlatte ($3.50 ก็เป็นราคาปรกติ)เสริฟในถ้วยกาแฟโบราณลายดอกกุหลาบรสชาติกาแฟหอมมัน...ไม่ต้องเติมอะไรแล้ว... การบริการเหมือนไปนั่งกินกาแฟบ้านเพื่อนเลย...น้ำเปล่ากรอกใส่ขวดยาสีชาโบราณอยู่ตรงโต๊ะนั้นช่วยตัวเอง...กินเสร็จก็เดินย่อยกลับบ้าน...
ป.ล บนเวปไซด์มีสูตรอาหารที่ทำขายในร้านไปหัดทำด้วยลองทำsconesดูสิไม่ยากเลย...

Friday, 12 August 2011

Turkish pide bread

 
หน้าตาเจ้าขนมปัง Turkish pide(pee-day) bread ซึ่งเป็นขนมปังประจำชาติของชาวตรุกีมีทั้งรูปทรงเหลี่ยมและกลมขนาดใหญ่ด้านนอกกรอบโรยด้วยเม็ดงาดำด้านในนุ่มหอมด้วยกลิ่นน้ำมันมะกอกเวลาเค้าอบก็จะอบกันในเตาดินเผาใหญ่ๆ...ซึ่งจะมีหินใหญ่ๆรองขนมปังอีกทีเจ้าหินตัวนี้เนี่ยก็จะทำหน้าที่ดูดซับความชื่นในตัวโด(dough)จนทำให้ขนมปังกรอบนุ่ม...
ไปได้เจ้าขนมปังนี้ที่ตลาด South Melbourne Market ราคา 2 เหรียญเองอบเมื่อตอนเช้าชิ้นใหญ่มากกว้างขนาด a5 ยาวขนาดช่วงแขน...กินยังไงก็ไม่หมดก็เลยเอามาตัดแบ่งๆไปกิน...รวมทั้งโยนให้นกที่บ้านกินด้วย
เอาหล่ะคราวนี้เอามาทำอะไรดีหล่ะนอกจากทาเนยและอบแบบธรรมดา...เปิดตู้เย็นเจอ snowpea spout สลัดกับปลาซามอลรมควันเหลืออยู่นอกนั้นก็ไปเด็ดสะระแหน่น ดอกไม้มาใส่เข้าก็เป็นสลัดปลาซามอลวางบนหน้าขนมปังเลยเป็นopenned sandwish ง่ายๆแถมมีสลัดเคียงกินแกล้มอีกด้วย...น้ำสลัดก็เป็นน้ำมันมะกอก น้ำมะนาว เกลือนิดนึง พริกไทยดำ..breakfast ง่ายๆอีกมื้อนึง

Monday, 1 August 2011

อาหารบ้านๆสำหรับคนอยู่ต่างแดน

ผัดกระเพราไก่+ไข่ดาว

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ไก่ผัดขิง
กุ้งผัดต้นกุ๋ยช่าย
ด้วยค่าครองชีพที่สูงในต่างแดนกับค่าเงินเหรียญออสซี่ดอลล่าร์ขึ้นเอาๆ(ณ วันนี้ 32บาทต่อ 1 เหรียญ)ผู้ปกครองนักเรียนไทยส่งลูกหลานมาเรียนที่australiaน่าจะลำบากไม่น้อยนะยิ่งนักเรียนที่มาเรียนอย่างเดียวโดยที่ไม่มีรายรับทางอื่นใดนอกจากรอให้พ่อแม่ส่งเงินมาให้ใช้จ่าย...เราลองมาช่วยทางบ้านประหยัดเงินง่ายๆโดยทำอาหารทานเองที่บ้านนอกจากประหยัดแล้วยังได้ความภูมิใจติดตัวด้วย อาหารHomecookหรือกับข้าวบ้านๆง่ายๆเร็วๆ (มาม่าตรอกไข่ใส่ไม่นับ) ผัดกระเพรา ไก่ผัดเม็ดมะม่วง ผัดขิง  ผัดผัก อาหารพวกนี้ไม่ยากเลยส่วนผสมที่เป็นเนื้อหรือผักก็พยายามไปเดินซื้อตามตลาดสดก็จะได้ของดีสด+ถูก ส่วนเครื่องปรุงซอสน้ำซิอิ้ว น้ำปลา น้ำมันหอยทุกบ้านน่าจะมีกันอยู่แล้วลองลงทุนซื้อน้ำพริกเผา และ xo sauce มาช่วยความหอมกลมกล่อมของอาหารอีกนิดนึง 2 ตัวนี้ช่วยได้มากสำหรับไก่ผัดเม็ดมะม่วงหรือแม้แต่ข้าวผัด มาม่า ก๋วยเตี๋ยว ลองใส่xo sauce ไปนิดนึงอร่อยขึ้นมาทันที...
  • Melbourne, Victoria Market ของสด ผัก ผลไม้ มักจะลดราคาเสมอๆตอนช่วงบ่าย 2-3 ของวันที่เปิดขาย
  • ซอสปรุงรสทั้งหลายที่ขายตามร้านคนจีนในไชน่าทาวน์ถูกที่สุดแล้ว(ไม่นับเวลาซุเปอร์มาเกตอย่างsavewayนำมาลดราคานะ)ราคาในแต่ละร้านไม่เท่ากันลองเดินเยอะๆถ้ามีเวลา...อย่าลืมดูวันหมดอายุด้วย
  • xo sauce ผลิตมาจากหอยเชล์และอิมพอรต์มาจากเมืองไทย...แทนที่จะมาจากฮ่องกง
  • ราคาอาหารไทยตามfoodcourtหรือร้านอาหารไทยมื้อกลางวันตกจานละ 8 -12 เหรียญ, ราคาเครื่องปรุงตกขวดละ 2-3 เหรียญ
  • เวลาผัดอาหารส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้น ซิอิ้วขาว น้ำมันหอย อย่าลืมกระเทียมด้วย   
  •  ถ้าที่บ้านมีเนื้อที่ลองปลูกสวนครัวเล็กๆก็จะช่วยประหยัดไปได้อีกแถมได้กินของปลอดสารและสดด้วย 
  • เวลาผัดอาหารที่มีกลิ่นแรงอย่าลืมเปิดเครื่องดูดควัน-กลิ่น...และก็ทำอาหารมื้อดึกเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหรือลดเสียงลงบ้างบางทีอาจจะโดนเพื่อนบ้านมาเคาะประตูด่าได้..55

Sunday, 31 July 2011

หนังสือพิมพ์ในเมลเบริน์เค้าเตือน:อันตรายของสาหร่ายห่อซุชิ

SUSHI lovers beware
เมื่อเช้าหนังสือพิมพ์theageของทางออสเตยเลียได้เขียนเตือนเกี่ยวกับสาหร่ายแห้งห่อซุชิ 1 ในอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมว่าการกินซุชิ sushi rollเยอะเกิน 2-3 โรลต่อสัปดาห์มีผลต่อผู้ที่เป็นไทรอยด์(thyroid )หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไทรอยด์ผิดปรกติเนื่องด้วยตัวสาหร่ายที่ห่อซุชิหรือที่เอามาใส่ในซุปซึ่งมีระดับความเค็มหรือiodineที่สูงและอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย....
เพราะฉะนั้นหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงนะส่วนคนที่ชอบกินซุชิเป็นชีวิตจิตใจลองหันมาทานซุชิแบบที่ไม่ต้องโรลหรือห่อด้วยสาหร่ายก็ได้ครับหรือประยุกต์ห่อด้วยใบคะน้าหรือใบเมี่ยงหรือผักสลัดก็จะลดความเสี่ยงได้เยอะ...

Friday, 29 July 2011

ง่ายๆเช้าๆกับแพนเค้ก:my morning with simply pancake and organic yogurt

Pancake with organic yogurt , kiwi topped with cinnamon syrup





จำได้ว่าเราเริ่มรู้จักกับอาหารเช้าแพนเค้กก็ตอนไปเที่ยวเกาะเสม็ดคราวแรกๆที่หาดแสงเทียนเป็นเมนูที่ต้องนั่งกินเกือบทุกมื้อ...แพนเค้กวันนั้นกับวันนี้ห่างกัน20กว่าปีน่าจะได้...แพนเค้ก ณ เมลเบริน์ วันนี้เป็นแพนเค้กทำกินเองกึ่งสำเร็จรูปซึ่งจะมีขายที่ซุปเปอร์มาเกตทั่วไปราคาประมาณ 3 เหรียญทำได้ประมาณ 12-16 ชิ้นแล้วแต่ขนาด...เค้าก็จะผสมมาให้เราเสร็จแล้วเป็นผงไม่ว่าจะเป็นแป้ง นม และไข่ เราก็แค่มาเติมน้ำเปล่าตามระดับที่ข้างกล่องเขย่าๆๆเชคๆๆคว่ำๆหงายๆสักนาทีนึงก็เสร็จแล้วเอาลงบนกะทะนอนสติคได้เลย...แค่นี้เองง่ายไปเปล่า...หาโยเกริต์มาราดกับน้ำผึ้งเราเอาน้ำตาลอบเชย cinnamon-sugar หรือผงวนิลามาโรยให้หอมปิดท้ายด้วยผลไม้ตามฤดูกาล...อร่อย ง่าย ถูก...จริงๆแล้วอยากใส่กล้วยหอมแต่ที่เมลเบริน์ตอนนี้กล้วยกิโลละ 12-17 เหรียญ..(360 บาท) ก็เลยใช้กีวีแทนเอา
  • แพนเค้กที่ผสมน้ำไปแล้วเก็บได้ประมาณ 3 วันในตู้เย็น
  • ลองดัดแปลงใส่น้ำใบเตยหรือน้ำมะพร้าวอื่นๆผสมรวมไปได้ก็จะได้กลิ่นหอมอีกแบบ

Monday, 25 July 2011

Poor Man's Espresso...Hip Hip

นั่งๆคิดดูว่าเรากินกาแฟวันละแก้ว1ปีก็365แก้ว...ราคากาแฟทั่วไปที่ปรกติชนจะสามารถทานได้ในเมลเบริน์เริ่มที่
3-4.00 เหรียญ (90-120บาท) ตกประมาณ 36500 บาทหรือ 1095 เหรียญต่อปี(ซื้อเครื่องnespressoได้ 2 เครื่อง)

 "สีเทา" ที่ชงกาแฟอิตาเลียน stove top espresso สำหรับPoor Man's Espressoทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นนักเรียนทุนตัวเอง นักท่องเที่ยวทุนน้อยหรือโรบินฮูดตกอับต่างแดนหรือใครก็ตามที่ต้องการประหยัดเงินในกระเป๋าแต่รสชาติไม่เป็นรองเจ้ากาแฟ 3 เหรียญเท่าไรนักยิ่งถ้าได้ชงกับกาแฟเม็ดที่เพิ่งบดสดๆ...เจ้าstove top espressoมีหลายขนาดตั้งแต่ 2-6 แก้วราคาเริ่มที่ 5 - 60กว่าเหรียญ...ตัวนี้เราได้มาจากตลาดของเก่าราคา 5 เหรียญ...
  • ส่วนเจ้าตัวกาแฟที่จะนำมาใช้กับเจ้าPoor Man's Espressoนี่มีขายทั่วไปในซุเปอร์มาเกต ในห้างหรือร้านที่บดกาแฟโดยเฉพาะทั้งสำเร็จรูปบดบรรจุถุงสูญญากาศหรือแบบเป็นเม็ดๆเอามาบดเองก็จะได้กลิ่นที่จัดจ้านกว่าที่บดสำเร็จแล้ว ส่วนใหญ่ราคาที่ 6-12เหรียญต่อ200กรัม...เราใช้ประมาณ 3 ช้อนชาต่อ 1 เสริฟ
  • ตรงถุงกาแฟจะมีรูเล็กๆให้เราดมกลิ่นกาแฟข้างในว่าเป็นกลิ่นอะไรนอกจากฉลากที่เขียนบอกอยู่แล้ว
  • กากกาแฟอย่าทิ้งเพราะใช้เป็นปุ๋ยต้นไม้ ขัดผิว ดับกลิ่นในตู้เย็น ดับกลิ่นรองเท้าหรือแม้แต่ไล่มด...(แม้ว่าเราจะไม่ค่อยเห็นมดในเมลเบริน์)


สำหรับวิธีชงดูตามนี้เลย http://www.marketlane.com.au/brewingguide.asp?guideID=547 
ไม่ยากใช่เปล่า

ปลาซาลมอลผัดพริกเผา

จริงแล้วไม่ได้เอาชิ้นปลาไปผัดแต่อย่างใดเราแค่เอาปลาซามอลที่เป็นชิ้นๆมา หมักด้วยเกลือพริกไทดำซิอิ้วขาวนิดเดียวก่อนเอาไปจี๋บนกะทะพอสุกสัก60เปอร์ เซนก็พอจัดวางพักไว้บนจานเสร็จ น้ำมันปลาที่ออกมาอย่าทิ้งเอามาผัดเครื่องน้ำพริกเผาราดใส่น้ำปรุงรสซิอิ้ว ขาวนิดนึงเอามาราดบนตัวปลาเป็นอันเสร็จ...สามารถดัดแปลงเป็นผัดพริกไทยดำ ก็ได้แล้วแต่จะชอบ..กินกับข้าวสวยร้อนๆ

- ราคาเจ้าปลาซามอลที่ตลาดvictoria market อยู่ระหว่างกิโลกรัมละ 26-32 เหรียญ ซึ่งจะสดมากกว่าซื้อตามซุปเปอร์มาเก็ตอย่างsavewayหรือcoleที่ราคาระหว่าง 24-27เหรียญ
  • ส่วนผสม:ชิ้นปลาซาลมอล น้ำพริกเผา ซิอิ้วขาว น้ำมันผัด พริกชี้ฟ้า มะเขือเทศ ใบสะระแหน่น ใบมะกรูดหั่นฝอย