Sunday, 31 July 2011

หนังสือพิมพ์ในเมลเบริน์เค้าเตือน:อันตรายของสาหร่ายห่อซุชิ

SUSHI lovers beware
เมื่อเช้าหนังสือพิมพ์theageของทางออสเตยเลียได้เขียนเตือนเกี่ยวกับสาหร่ายแห้งห่อซุชิ 1 ในอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมว่าการกินซุชิ sushi rollเยอะเกิน 2-3 โรลต่อสัปดาห์มีผลต่อผู้ที่เป็นไทรอยด์(thyroid )หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไทรอยด์ผิดปรกติเนื่องด้วยตัวสาหร่ายที่ห่อซุชิหรือที่เอามาใส่ในซุปซึ่งมีระดับความเค็มหรือiodineที่สูงและอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย....
เพราะฉะนั้นหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงนะส่วนคนที่ชอบกินซุชิเป็นชีวิตจิตใจลองหันมาทานซุชิแบบที่ไม่ต้องโรลหรือห่อด้วยสาหร่ายก็ได้ครับหรือประยุกต์ห่อด้วยใบคะน้าหรือใบเมี่ยงหรือผักสลัดก็จะลดความเสี่ยงได้เยอะ...

Friday, 29 July 2011

ง่ายๆเช้าๆกับแพนเค้ก:my morning with simply pancake and organic yogurt

Pancake with organic yogurt , kiwi topped with cinnamon syrup





จำได้ว่าเราเริ่มรู้จักกับอาหารเช้าแพนเค้กก็ตอนไปเที่ยวเกาะเสม็ดคราวแรกๆที่หาดแสงเทียนเป็นเมนูที่ต้องนั่งกินเกือบทุกมื้อ...แพนเค้กวันนั้นกับวันนี้ห่างกัน20กว่าปีน่าจะได้...แพนเค้ก ณ เมลเบริน์ วันนี้เป็นแพนเค้กทำกินเองกึ่งสำเร็จรูปซึ่งจะมีขายที่ซุปเปอร์มาเกตทั่วไปราคาประมาณ 3 เหรียญทำได้ประมาณ 12-16 ชิ้นแล้วแต่ขนาด...เค้าก็จะผสมมาให้เราเสร็จแล้วเป็นผงไม่ว่าจะเป็นแป้ง นม และไข่ เราก็แค่มาเติมน้ำเปล่าตามระดับที่ข้างกล่องเขย่าๆๆเชคๆๆคว่ำๆหงายๆสักนาทีนึงก็เสร็จแล้วเอาลงบนกะทะนอนสติคได้เลย...แค่นี้เองง่ายไปเปล่า...หาโยเกริต์มาราดกับน้ำผึ้งเราเอาน้ำตาลอบเชย cinnamon-sugar หรือผงวนิลามาโรยให้หอมปิดท้ายด้วยผลไม้ตามฤดูกาล...อร่อย ง่าย ถูก...จริงๆแล้วอยากใส่กล้วยหอมแต่ที่เมลเบริน์ตอนนี้กล้วยกิโลละ 12-17 เหรียญ..(360 บาท) ก็เลยใช้กีวีแทนเอา
  • แพนเค้กที่ผสมน้ำไปแล้วเก็บได้ประมาณ 3 วันในตู้เย็น
  • ลองดัดแปลงใส่น้ำใบเตยหรือน้ำมะพร้าวอื่นๆผสมรวมไปได้ก็จะได้กลิ่นหอมอีกแบบ

Monday, 25 July 2011

Poor Man's Espresso...Hip Hip

นั่งๆคิดดูว่าเรากินกาแฟวันละแก้ว1ปีก็365แก้ว...ราคากาแฟทั่วไปที่ปรกติชนจะสามารถทานได้ในเมลเบริน์เริ่มที่
3-4.00 เหรียญ (90-120บาท) ตกประมาณ 36500 บาทหรือ 1095 เหรียญต่อปี(ซื้อเครื่องnespressoได้ 2 เครื่อง)

 "สีเทา" ที่ชงกาแฟอิตาเลียน stove top espresso สำหรับPoor Man's Espressoทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นนักเรียนทุนตัวเอง นักท่องเที่ยวทุนน้อยหรือโรบินฮูดตกอับต่างแดนหรือใครก็ตามที่ต้องการประหยัดเงินในกระเป๋าแต่รสชาติไม่เป็นรองเจ้ากาแฟ 3 เหรียญเท่าไรนักยิ่งถ้าได้ชงกับกาแฟเม็ดที่เพิ่งบดสดๆ...เจ้าstove top espressoมีหลายขนาดตั้งแต่ 2-6 แก้วราคาเริ่มที่ 5 - 60กว่าเหรียญ...ตัวนี้เราได้มาจากตลาดของเก่าราคา 5 เหรียญ...
  • ส่วนเจ้าตัวกาแฟที่จะนำมาใช้กับเจ้าPoor Man's Espressoนี่มีขายทั่วไปในซุเปอร์มาเกต ในห้างหรือร้านที่บดกาแฟโดยเฉพาะทั้งสำเร็จรูปบดบรรจุถุงสูญญากาศหรือแบบเป็นเม็ดๆเอามาบดเองก็จะได้กลิ่นที่จัดจ้านกว่าที่บดสำเร็จแล้ว ส่วนใหญ่ราคาที่ 6-12เหรียญต่อ200กรัม...เราใช้ประมาณ 3 ช้อนชาต่อ 1 เสริฟ
  • ตรงถุงกาแฟจะมีรูเล็กๆให้เราดมกลิ่นกาแฟข้างในว่าเป็นกลิ่นอะไรนอกจากฉลากที่เขียนบอกอยู่แล้ว
  • กากกาแฟอย่าทิ้งเพราะใช้เป็นปุ๋ยต้นไม้ ขัดผิว ดับกลิ่นในตู้เย็น ดับกลิ่นรองเท้าหรือแม้แต่ไล่มด...(แม้ว่าเราจะไม่ค่อยเห็นมดในเมลเบริน์)


สำหรับวิธีชงดูตามนี้เลย http://www.marketlane.com.au/brewingguide.asp?guideID=547 
ไม่ยากใช่เปล่า

ปลาซาลมอลผัดพริกเผา

จริงแล้วไม่ได้เอาชิ้นปลาไปผัดแต่อย่างใดเราแค่เอาปลาซามอลที่เป็นชิ้นๆมา หมักด้วยเกลือพริกไทดำซิอิ้วขาวนิดเดียวก่อนเอาไปจี๋บนกะทะพอสุกสัก60เปอร์ เซนก็พอจัดวางพักไว้บนจานเสร็จ น้ำมันปลาที่ออกมาอย่าทิ้งเอามาผัดเครื่องน้ำพริกเผาราดใส่น้ำปรุงรสซิอิ้ว ขาวนิดนึงเอามาราดบนตัวปลาเป็นอันเสร็จ...สามารถดัดแปลงเป็นผัดพริกไทยดำ ก็ได้แล้วแต่จะชอบ..กินกับข้าวสวยร้อนๆ

- ราคาเจ้าปลาซามอลที่ตลาดvictoria market อยู่ระหว่างกิโลกรัมละ 26-32 เหรียญ ซึ่งจะสดมากกว่าซื้อตามซุปเปอร์มาเก็ตอย่างsavewayหรือcoleที่ราคาระหว่าง 24-27เหรียญ
  • ส่วนผสม:ชิ้นปลาซาลมอล น้ำพริกเผา ซิอิ้วขาว น้ำมันผัด พริกชี้ฟ้า มะเขือเทศ ใบสะระแหน่น ใบมะกรูดหั่นฝอย